สวัสดีจ้า หญิงแย้กลับมาอีกแล้ว แย้เพิ่งได้ไปเที่ยวที่ประเทศรัสเซียมา รัสเซียเป็นประเทศที่มีศิลปะ วัฒนธรรมที่น่าสนใจมากๆ ซึ่งเป็นประเทศที่แย้อยากไปมากเช่นกัน โดยการไปรัสเซียครั้งนี้แย้ไปกับทัวร์นะจ้ะ ราคาอยู่ที่ 9x,xxx (ไม่รวมกับอัพที่นั่งเป็น Business class) บินกับการบินไทย บินตรง 9 ชม. ไปถึงรัสเซียเลยจ้า
ติณติณดูเหมือนจะไปกับแย้! หรือมาส่งหญิงแย้ที่สนามบิน??! เปล่าจ้าบังเอิญว่าติณติณไปจีนพอดี แต่คนที่ไปกับแย้จริงก็คือบุรุษเสื้อดำ ที่นั่งอยู่ข้างๆแย้นี่เอง
มาต่อกันที่อาหารบนเครื่องบิน ชอบมากๆเพราะแย้เป็นคนชอบกินชีส พาร์มาแฮม ที่ชอบมากก็คือที่เป็นชีสแล้วโรยด้วยหอมเจียว อีกจานก็คือแซลมอนรมควัน
กับพาร์มาแฮม อร่อยมาก แล้วก็ตามด้วยขนมหวานก็อร๊อยยย อร่อย จะอร่อยไปไหน ทานบนเครื่องบิน 2 มื้อ แล้วมาถึงรัสเซียก็ทานอีก 1 มื้อ อ้วนเลย
แต่ที่รัสเซียไม่ค่อยหวือหวา เวอร์วังอลังการเท่าไหร่ แล้วเวลาที่ทานอาหาร Traditional food ของที่นี่ เค้าก็จะมีขนมปัง 2 สีแบบนี้ทุกร้าน รสชาติก็ไม่เอาไหนเลยค่ะ แล้วก็มีเนยมาให้ ก็ไม่ได้กินเพราะลองชิมขนมปังแล้วมันแข็งมาก ชิ้นสีน้ำตาลเข้มจะเปรี้ยวเป็นพิเศษ มันไม่ค่อยโอเคคค แล้วก็เย็นชืดอีกต่างหาก
ถัดมาจานแรกที่เสริฟก็จะเป็นสลัดแครอท ก็จะมีน้ำสลัดให้มากรุบกริบโรยด้วยผงพริกอะไรสักอย่าง รสชาติก็งั้นๆนะจ้ะ อันที่สองคือซุปของรัสเซีย จำไม่ได้ว่าเรียกว่าอะไร แต่เค้าบอกว่าต้องใส่ซาวครีมเข้าไปเพื่อเพิ่มความอร่อย
เมนูสุดท้ายที่อยู่ในหม้อก็คือเป็นเกี๊ยวของรัสเซียนั่นเอง แต่รสชาติจะจีนไปไหน เป็นเกี้ยวหมูปรุงรส แต่แย้จะเอาที่เป็นแป้งก่อนแล้วค่อยกินไส้ใน รสชาติดีใช้ได้เลยทีเดียว
3 คืนที่ Moscow แย้พักที่โรงแรม Radisson Blu จ้า เป็นโรงแรมที่ดีมากๆ เพราะสาธารณูปโภคดี อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ ห้องใหญ่ ไดร์เป่าผมแรง มีอ่างอาบน้ำ เตารีด ที่ขัดรองเท้า เป็นต้น
ค่าเงินของที่นี่ 1 รูเบิล เท่ากับ 1 บาท ขึ้นอยู่กับว่าใครแลกมาได้เท่าไหร่ แย้แลกมาได้ 1.2 บางคนก็แลกได้ 1 นิดๆ แนะนำว่าบางที่เที่ยวในรัสเซียส่วนใหญ่เค้าจะรับเงินดอลลาร์ด้วย ถ้าแลกดอลลาร์ไปก็ง่ายดี แล้วก็ได้กำไรกว่า หรือว่าแลกดอลลาร์มาแล้วแลกเป็นรูเบิลที่นี่ดีกว่า ส่วนข้าวของเวลาไปเดินก็สามารถต่อราคาได้ ต่อแบบอารมณ์เกือบๆเมืองจีนเลย อย่างเช่น ของราคาเป็นหมื่น ซื้อได้ในราคา 4 พันอะไรประมาณนั้น
และนี่ก็เป็นจุดเด่นนึงของประเทศรัสเซียกรุงมอสโคว์ก็คือ รถไฟฟ้าใต้ดินของเค้าก็จะมีการออกแบบ ตกแต่งภายในที่ไม่เหมือนกันเรียกได้ว่าโดยสิ้นเชิงเลยดีกว่า สถานีแรกที่แย้ไปอย่าถามชื่อสถานีเพราะจำไม่ได้จ้า ก็จะเป็นตกแต่งด้วยกระจกสีต่างๆ สถานีที่ 2 ก็ตกแต่งด้วยโมเสค
ส่วนสถานีที่ 3 ก็จะเป็นรูปปั้นทั้งหมดเลย ซึ่งรูปปั้นแต่ละอันก็จะมีความหมาย รูปที่แย้ถ่ายมาที่เป็นรูปลูบหัวหมาอยู่ สังเกตว่าลูบกันจนสีลอกเลยทีเดียว เพราะคนรัสเซียบอกว่าลูบแล้วก็จะโชคดี แย้ก็เลยไปลูบกับเค้าด้วย ก็เลยโดนกัด หึหึ ล้อเล่น
โอเคแล้วก็ถัดมาสถานีสุดท้าย ก็ตกแต่งด้วยจิตรกรรมฝาผนังแบบเฟรสโก้นั่งเอง ก็คือภาพวาดบนปูนที่ยังไม่แห้ง เป็นที่นิยมมากในรัสเซีย
บันไดเลื่อน สูง เสียว และชันมาก แถมรูปในรถไฟด้วย
จากรถไฟใต้ดินมาต่อกันที่พระราชวังเครมลิน ตั้งอยู่ริมชายฝั่งแม่น้ำมอสโคว สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของพระเจ้าซาร์ผู้ครองเมืองทุกพระองค์ ยกเว้นสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราชได้ย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กแต่ว่าพอเปลี่ยนการปกครองเป็นแบบคอมมิวนิสต์ก็ได้ย้ายเมืองหลวงกลับมายังกรุงมอสโคว์ ซึ่งปัจจุบันที่เข้าไปชมก็จะมีจัตุรัส วิหาร ที่เก็บพระศพของพระเจ้าซาร์และเจ้าชายทั้งหมด
รูปนี้กำลังจะเดินเข้าพระราชวัง โดยข้างหลังก็คือหอคอยนั่นเอง ซึ่งมีทั้งหมด 20 หอคอย อันนี้คือหอคอยที่ใหญ่ที่สุดจ้า
มีหลายที่ที่ไม่สามารถถ่ายรูปได้ อย่างเช่น ภายในโบสถ์อัสสัมชัญก็สวยงาม เป็นศิลปะภาพวาดแบบเฟรสโก้ แล้วก็เป็นภาพต่างๆของประวัติของพระเยซู แล้วก็มีพวกปืนใหญ่ ของประเจ้าซาร์ที่ทำด้วยบรอนซ์ น้ำหนัก 40 ตัน แล้วก็ถ่ายรูปกับระฆังยักษ์ ของพระเจ้าซาร์ที่มีน้ำหนัก 210 ตัน
ก็อีกที่นึงที่ทัวร์มักจะพาไปก็อยู่พระราชวังเครมลินนี่แหละ จะเป็นพิพิธภัณธ์อาร์เมอร์รีแชมเบอร์ก็จะเป็นที่เก็บสะสมของมีค่าที่สุดของรัสเซีย ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 4 - 20 ซึ่งรวมพวกทรัพย์สมบัติของพระเจ้าแผ่นดิน ซึ่งในพิพิธภัณธ์ไม่สามารถถ่ายรูปได้ ก็จะมีไข่แฟร์แบเช่ หรือไข่อีสเตอร์ที่ทำจากโลหะมีค่า หินแข็งตกแต่งด้วย อัญมนีและการลงยา ถือว่าเป็นงานอัญมณีชั้นหนึ่งเลย แล้วก็มีพวกบัลลังค์เพชร มงกุฎ เสื้อผ้าที่สวมใส่ในโอกาสสำคัญของบรรดาจักรพรรดิและราชวงศ์
มาที่เมนูกลางวันอาหารพื้นเมืองของที่นี่คือ ไก่เคียฟ มองภายนอกเป็นไก่ชุบแป้งเกล็ดขนมปังทอด เสริฟพร้อมข้าวร่วนๆ ข้าวไม่อร่อย หรือมันฝรั่งบด ผ่าดูข้างใน เป็นส่วนหน้าอก(เส้นๆ) มีโรสแมรี่ยัดไส้พร้อมเครื่องเทศ ลองกินดู อร่อยซะงั้น ไม่ต้องจิ้มอะไรแต่มันจะไม่ค่อยคล่องคอเท่า KFC เท่าไหร่เพราะมันแห้งๆ รสชาติเหมือน ไก่KFC สูตรต้นตำรับเลย
ส่วนของหวานเป็นเครปครีมสตรอเบอรี่ กินเกลี้ยง ข้างในเป็นครีมสตอเบอรี่ราดด้วยซอสสตอเบอรี่ ชนะเลิศ
สุดท้ายของวันนี้มาดูละครสัตว์ และจะมีการแสดงของสัตว์ต่างๆ สิงโตทะเล น่ารักมาก เชื่องมาก ดูแล้วเพลินเวอร์ ไม่รู้เค้าฝึกยังไงฝึกเก่งมาก ออกมาแสดงที 3 ตัวพร้อมกันเลย แล้วก็มีมายากลเปลี่ยนเสื้อไวมาก อลังการ แล้วก็การแสดงผาดโผนซึ่งผาดโผนมาก ถ้าตกลงมาก็ตายอย่างเดียว เสียวได้อีก
แล้วก็มีอีกอย่างนึงก็จะมีสิงโต เสือจากัวร์ เสือโคร่งอย่างละ 4 ตัว ไม่รู้คุมได้ยังไง ต้องยอมรับว่าคนที่เค้าดูแลสัตว์เก่งมากๆ ผ่านไปแล้วกับการท่องเที่ยววันที่ 2 จ้า
วันต่อมาตอนเช้าแย้ออกจากโรงแรมใช้เวลาประมาน 1 ชม. ครึ่ง เพื่อเดินทางมาที่เมืองซาร์กอส อยู่ห่างจากมอสโคว์ประมาน 70 กม. เป็นที่ตั้งของศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 14 - 17 แล้วก็เป็นที่แสวงบุญด้วย มีวิทยาลัยสอนศิลปะ มีสอนการร้องเพลงทางศาสนา มีการวาดภาพไอคอนเป็นวิทยาลัยสงฆ์ที่มีบาทหลวงและนักศึกษาจำนวนนับร้อยคน
ศาสนสถานในเมืองนี้จะอยู่ในรั้วเดียวกัน เราก็สามารถเดินชมได้ และที่เห็นโดมทองแห่งนี้ บางคนอาจจะเข้าใจว่าเป็นมัสยิส โดมทองที่จริงแล้วเป็น Symbol ของมงกุฎนั่นเอง
ส่วนภาพที่แย้ใส่ผ้าคลุม คือคนที่เป็น Russian Orthodox เค้าจะมีวัฒนธรรมในการใส่ผ้าคลุมเวลาเข้ามาในศาสนสถาน คลุมสีอะไรก็ได้นะจ้ะ ส่วนใหญ่ที่เค้าใส่ก็จะเป็นสีสุภาพนิดนึง และภาพจิตรกรรมฝาผนัง เป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับศาสนาทั้งปวง ซึ่งมีอยู่รายล้อมศาสนสถานแห่งนี้
ถัดมาก็จะเป็นโบสถ์ที่มีโดมหัวหอม ต่อคิวกันยาวมากเพื่อที่จะไปจูบศพของคนสำคัญคนนึงของศาสนาของเค้า แต่เราก็ไม่รู้เรื่องหรอก ก็เข้าไปบริจาคเงิน จุดเทียน อธิษฐาน ออกมาด้านหลังก็จะมีหอนาฬิกา ที่ใหญ่ที่สุด หนัก 72 ตันเลยทีเดียว สุดยอดมาก เอาขึ้นไปได้ยังไง
นี่คือภาพของโบสถ์อัสสัมชัญมีหัวหอมสีฟ้าอยู่ข้างบน สร้างในสมัยพระเจ้าอีวานเลียนแบบโบสถ์อัสสัมชัญที่จัตุรัสวิหารแห่งเครมลินนั่นเอง ตกแต่งภายในด้วยภาพวาดเฟรสโก้และภาพไอคอนนั่นเอง
ถึงจะเป็นศาสนสถานก็เปิดโอกาให้สมีร้านของที่ระลึกมาจำหน่าย ภายในศาสนสถานก็จะมีร้านค้าสวัสดิการขายของราคาถูกมาก ต่อราคาไม่ได้แล้วนะจ้ะ แต่ก็จะถูกกว่าร้านขายของถนนข้างนอก
ถึงจัตุรัสแดงแล้วจ้าซึ่งจัตุรัสแดงเป็นเวทีของเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์รัสเซีย สร้างใน คริสต์ศตวรรษที่ 17 อีกไฮไลท์ของประเทศรัสเซียก็คือวิหารเซนต์เบซิล สร้างในสมัยพระเจ้าอิวานที่ 4 จอมโหด ด้วยศิลปะรัสเซียโบราณ มียอดโดม 9 ยอด หลากสีสันสวยงาม จนนักท่องเที่ยวเรียกกันว่าโบสถ์ลูกกวาดนั่นเอง ถามว่าได้เข้าไปมั้ย ไม่ได้เข้าไปนะคะ เพราะว่าเข้าไปต้องเสียตังค์นะจ้ะ เพราะภายในโบสถ์ก็จะคล้ายๆกันหมดทุกโบสถ์เลย
นี่คือหอนาฬิกาซาวิเออร์ เป็นศิลปะแบบโกธิค บนยอดมีดาวแดง 5 แฉก ทำมาจากทับทิมหนัก 20 ตัน
ตรงที่แย้กระโดดอยู่นี้เป็นห้างชื่อว่า Gum (กุม) เป็นห้างที่โบราณมาก แต่ใหญ่โตสวยงาม จำหน่ายสินค้าเยอะแยะเลยตั้งแต่แบรนด์ Hi-end ยันแบรนด์ hi-street อย่างเช่น Hermes, Paul Smith อะไรประมาณนี้ ซึ่งประเทศรัสเซียจะไม่มี Tax refund ดังนั้นเราก็ต้องจ่ายกันแบบราคาเต็ม อย่าง Hermes ราคาก็จะไกล้เคียงกับประเทศไทยเลย ต่างกันนิดเดียว อย่างเช่นเข็มขัดหนังจระเข้ Hermes เมืองไทยในDutyFree อยู่ที่ 120,000 บาท แต่ที่นี่จะอยู่ที่ประมาน แสน 125,000 รูเบิล ราคาที่รัสเซียจะสูงกว่า
ที่แย้กระโดดอยู่นี่ จะเป็นที่เก็บศพของเลนินสร้างด้วยหินอ่อนสีแดงนั่นเอง มีคนสงสัยว่าจตุรัสแดงที่มันแดงยังไง จริงๆแล้วมันไม่ได้แดงนะจ้ะ คำว่าแดงในภาษารัสเซียไปคล้องจองกับคำว่าสีแดงที่จริงความหมายคือจัตุรัสสวย แต่ว่าสุดท้ายฝรั่งก็แปลเป็นคำว่า Red ที่แปลว่าแดงซะอย่างงั้น ก็เลยกลายเป็นจัตุรัสแดง
ออกจากจัตุรัสแดงมาก็จะเจอกับมหาวิหารเซนต์ซาเวียร์ เป็นมหาวิหารกลางเมือง สร้างเป็นอนุสรณ์ที่รัสเชียมีชัยชนะต่อกองทัพนโปเลียน ในปี 1812 เป็นวิหารที่ใช้ในการประกอบพิธีทางศาสนามาถึงปัจจุบัน
มาถึงจบวันที่ 3 กันแล้ว เป็นยังไงบ้าง ความสวยงามของประเทศรัสเซีย ยังไม่หมดเท่านี้ แย้ขอแบ่ง Russia Trip เป็น 2 ตอนนะจ้ะ ตอนต่อไปแย้จะพาไปตะลุยที่ไหนกันต่อ อย่าลืมติดตามชมกันนะจ้ะ
* รีวิวนี้ไม่มีสปอนเซอร์จ้า
ติดตามหญิงแย้ได้ทุกช่องทางที่
Blog :http://www.yaeuunws.com
Facebook : www.facebook.com/uunws
Instagram : yae_uunws
SocialCam : Yae_uunws
Youtube : www.youtube.com/user/YEAuunws
Pantip : นนทพรแย้
Jeban : Yaeuunws
แต่ละรูป ท่าตลกดีคะ
ตอบลบชอบๆ
สวยงามมากๆ ครับ ทำให้อยากไปรัสเซียขึ้นเยอะเลย นางแบบท่าก็ฮา น่ารัก เป็นทามซาตมากๆ 55+
ตอบลบ