รีวิวTWG มาเปิดที่ไทยได้พักใหญ่แล้วที่ Siam Paragon ชั้น M ชา อาหาร และขนมแบบฮิโซ๊ ฮิโซ

อ้ะ..มาดูรีวิวTWG มาเปิดที่ไทยได้พักใหญ่แล้วที่ Siam Paragon ชั้น M ชา อาหาร และขนมแบบฮิโซ๊ ฮิโซ (นานๆทีจะได้รับประทานดีๆกับเค้าบ้าง555) 😊 ใครเดินเล่นแถวสยามแล้วอยากหาที่นั่งพักนั่งจิบชาชิวๆ ขอแนะนำ TWG สงบ บรรยากาศดี นัดผู้ นัดคุยงานได้เลย อ้ะ!! ดูรีวิวกัน




จริงๆแล้ว อาหารเนี่ยเค้าเป็นคอร์ส แบบมีสลัด มีซุป พาสต้า เสต็ก แต่ประกฏว่า ความนิสัยการกินแบบคนไทย ก็เลยไม่รีรอที่จะสั่ง main-course 
มาทานพร้อมพวก appetizer เลยจ้า



ภาพบน - เป็นอารมณ์ Appetizer ที่พอร์ชั่นใหญ่มาก เค้าคือ "Lobster Timbale" จานนี้ คุณแม่รับประทานหมดเลยหน้าตาดีถ่ายรูปสวยงามมาก มีอโวคาโดรองด้านล่าง
คุณแม่บอก เนื้อลอบสเตอร์แน่น อร่อยมาก อธิบายไม่ถูก


ภาพล่าง -  "Hokkaido Scallops" ตัว Scallops ใหญ่มาก และอบได้เกรียมกำลังดี กรอบนอกนุ่มใน หอมและสดมากๆ ส่วนด้านล่างเป็นซอสครีมในผักโขมอบที่หอม
เข้มข้น อร่อยมาก  ด้านบนแต่งด้วยไข่ปลาคาร์เว
ียร์และไข่ปลาแซลมอน
และสิ่งที่แย้แย่งคุณพ่อทาน
เลยก็คือ พาร์เมซานชีสกรอบ
 ❤️ ฟินจริงจริ๊ง


ภาพบน -  Wagyu Steak สายเนื้อห้ามพลาด เอาเรื่องราคาก่อนเลยเพราะปกติ สั่งพวกเนื้อวากิวทาน ย่อมไม่ต่ำกว่า 1,000฿ แต่ที่นี่ 790฿ เลยตัดสินใจได้ไม่ยาก ตัวเนื้อวากิวหอมกลิ่นวากิวกำลังดี มันไม่เยอะจนเกินไป ทานแล้วไม่รู้สึกเลี่ยน
ส่วนซอสก็เข้มข้นกำลังดีมีกลิ่นชาและพริกไทย
กลมกล่อมไปกับเนื้อ ทานแล้วแทบจะลอยติดเพดาน
ปล.มันดูสุกไปนิดเพราะสั่งแบบ Well done เนื่องจากคุณพ่อไม่ชอบทานดิบจ้า



ภาพล่าง -  Grilled Snow Fish ปลาหิมะเนื้อปลาสด หอมตามสไตล์ปลาหิมะ ไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเลย มีซอสรสชาติกลมกล่อมมาเสริมความหอมของปลาหิมะ
เสิร์ฟมากับข้าวสวยหอมกลิ่นชาญี่ปุ่น   นี่ก็ราคาดีงาม 550฿ เอง คุ้มค่ามาก




มากันที่  set ของหวานกันบ้าง สั่ง hi tea มา เป็นเซ็ทเล็กสุด ประกอบไปด้วย 

❤️     มาการอง 3 ชิ้น อร่อยทุกชิ้นเพราะเล็งตั้งแต่เดินเข้าร้าน

❤️ แซนวิซแซลมอนรมควัน ซึ่งเราจะเปลี่ยนเป็นแซนวิซอื่นๆก็ได้ในเมนู

❤️และ สโคน เสิร์ฟพร้อม วิปครีมและ เยลลี่ชาอัฟริกันมีกลิ่นหอมเบอร์รี่อ่อนๆ 
    คือพอเค้าเสิร์ฟต้องรีบทานเลย มาแบบร้อนๆ ปาดเยลลี่ป้ายวิปครีม
    หืมมมม หอมอร่อยย  
ไปคู่กับชาแดงแบบไม่มีคาเฟอีน ดื่มแล้วก็ยังหลับสบายได้




ความรู้เรื่องชาแย้น้อยมากจริงๆ ตอนแรกจะดื่มชาขาว ชาเขียวจัสมิน แต่ก็เกรงว่า จะธรรมดาเกินไป ก็เลยให้ พนง.แนะนำ เค้าแนะนำเป็นชาแดง Jade of Africa
ฟังชื่อดูอยู่ในป่า แต่รสชาติน่ารักกุ๊กกิ๊ก เป็นกลิ่นผลไม้ เปรี้ยวหวาน หอมกรุ่น




เอาเป็นว่า ดูรีวิวจนจบขนาดนี้ ถ้าอยากจะลิ้มลองความอร่อยที่ร้าน TWG ก็ไม่ต้องไปไกลถึงต่างประเทศแล้ว เค้าอยู่ที่ Siam Paragon ชั้น M เลย
บรรยากาศก็ดีงามมาก  เหมือนหลุดความวุ่นวายเข้าส
ู่โลกแห่งสงบและอร่อย!!55

รีวิวร้านเพื่อน บ้านเพื่อนเอกมัย เผื่อใครไม่เคยไปจะได้เตรียมตัวถูก555+



รีวิวร้านบ้านเพื่อน เอกมัย ก็ไม่รู้จะรีวิวไปทำไมนะเพราะหลายๆคนก็เคยไปกันแล้ว 55555+
เอาเป็นว่า ขอรีวิวเพื่อให้ชาวต่างถิ่นที่มา กทม. ได้มีที่นั่งชิวยามค่ำคืนละกันจ้ะ พิกัดที่นี่คือ เวิ้งตรงปากซอยเอกมัย 10 นาจา เดินขึ้นมาชั้น 3 ได้เลอออและแย้กับเพื่อนหลายๆคนก็ลงความเห็นว่า 
-ด้วยความสว่างที่พอดีๆ ของร้าน ไม่มืดเกินไป
-อาหารบ้านๆแต่อร่อยสัสที่กินได้ทุกวัน 
-เครื่องดื่มครบทุกชนิด
-คนมาเที่ยวที่เหมือนผ่านการคัดสรรหน้าตามาประมาณนึง หรือบางทีมาแล้วเจอเพื่อน เจอคนดัง
-ดนตรีสดที่ดีงามทุกวัน
-มีที่จอด(ห้ามลืมแสตมป์นะ มันแพงมาก)
-โลเคชั่นดีงาม
เราก็เลยถือว่าบ้านเพื่อน เอกมัยเป็นแหล่งแฮงเอ๊าท์ที่ดีที่สุดในย่านเอกมัย!!


เมนูแนะนำที่ทุกคนต้องสั่งคือ เอ็นไข้ก่อ เอ้ย!! เอ็นข้อไก่สไปซี่
อย่างภาพบนเลือกเอาข่ะ!! แบบมีผงลาบสไปซี่ กับไร้ผง(ดูธรรมดาเลยจ้า)
แย้ขอแนะนำว่าสั่งไปเลย สไปซี่หนักๆ อร่อยจริงไรจริง!! 


นี่คือบรรดาแก๊งที่ไปกันประจำ ในรูปนี้ นั่งสวยๆกันในร้านข่า


เอาเมนู กับราคามาให้ดูพอกรุบกริบงุบงิบ


ภาพบนเป็น อาหารคลีน เซ็ทนักกล้าม โปรตีนหนักมาก ดูสีจืดๆ แต่พอใส่มายองเนสกับซอสแมกกี้เข้าไป ทุกอย่างก็ดูมีสีสัน ความอร่อย!!555555
ส่วนข้างล่างยำกุ้งสด อันนี้ไม่ได้ชิมแพ้กุ้ง+ไม่
ชอบแตงกวานาจา


ภาพบน อันนี้ มีแทบทุกโต๊ะ มันคือ มาม่าต้มยำหม้อไฟ
ถ้าใครได้มาก็สั่งไปเถอะ อร่อยจริง

ภาพล่างนี่เป็น ไข่ตุ๋นทรงเครื่อง แต่ปกติแย้จะสั่ง ไข่ตุ๋นต้มยำ แซ่บกว่า เชื่อดิ!


มาที่อาหารถาดหลุม กินแล้วเสียวฟันยิกๆเมื่อช้อนส้อมกระทบ อี๊ดอ๊าด
ได้อารมณ์สมัยเด็กอนุบาลประ
ถมจริงๆ
ถาดบน ข้าวหมูกระเทียมไข่ดาว อาหารดูเบสิกก็จริงแต่ขายดีมากข่า!!
ถาดล่าง ข้าวแมว ชื่อสั้นๆง่ายๆ และก็ตามนั้น อร่อย แต่เผ็ดนะบอกเลย
 


ชามนี้ ถ่ายไม่ทันจริงๆ5555 มันคือ ซุปเปอร์เท้าไก่น้ำดำ
ถ้าสั่งว่าไม่เผ็ด จะอร่อยน้อยลงหน่อย
แต่ก็ทรมานกับความเผ็ดน้อยล
งด้วย แต่เมนูนี้นะ สั่งมากินมาซดนี่สร่างเมาได้เลย


มาที่คอกเท็ลก็เยอะแยะตาแป๊ะ 
ซ้ายบน-- แก๊งยาดอง ซึ่งดองจริงๆ เอามา 3 ขนาน
ความโหดก็ตามสี อ่อนไปยันเข้ม แกล้มกับมะม่วงกวน
โอ๊ยยยได้อารมณ์

ขวาบน--บักเก็ทอันนี้เหยือกเดียวเสียวทั่วโต๊ะ ได้อารมณ์ตรอกข้าวสาร
กินง่ายเมาง่าย55555+

ซ้ายล่าง-- B52 รุ้จักกันดี ไม่ต้องอธิบายเยอะ อร่อยตามมาตรฐาน

ขวาล่าง-- จำชื่อไม่ได้ แต่มีความ Frozen มีความเอลซ่า อร่อยดี สาวๆน่าจะชอบ


ดูหน้า!!
นอกจากบรรดาคอกเทล พวกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆก็มีหมดทุกอย่างจ้ะ
 


บรรรยากาศ คนเยอะทุกคืน มีดนตรีสดน่าจะ 3 ทุ่มวันธรรมดา
ส่วนวันศุกร์ เสาร์ มา 2 ทุ่มกว่า


ความเซ็นเซอร์หน้าคน..5555+ คือมันมี 3 โซน 
1. ติดแอร์ ที่ไม่ค่อยแอร์เท่าไหร่5555 ตรงนี้จะมีเตียงด้วย
นั่งสบาย บรรยากาศเหมือนอยู่บ้านเพื่
อน
2. โซนในร่มไร้แอร์ แต่ไม่ร้อนเท่าไหร่ เพราะพัดลมเยอะมาก
และอยุ่หน้าเวที โซนนี้ฮิตจริง

3. โซน outdoor สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติอย่างแท้จริง
โซนนี้สำหรับคนมาคุยงานเพรา
ะดนตรีจะเสียงเบาสุด แลกที่นั่งก็มีพนักพิง


อันนี้เตียงสาธารณะใครจะมานอนก็ได้ 



สภาพบนโต๊ะน่ารักใสใส แต่งแนว Loft Industrial และแย้กับเพื่อนหลายๆคนก็ลงความเห็นว่า 
-ด้วยความสว่างที่พอดีๆ ของร้าน ไม่มืดเกินไป
-อาหารบ้านๆแต่อร่อยสัสที่กินได้ทุกวัน 
-เครื่องดื่มครบทุกชนิด
-คนมาเที่ยวที่เหมือนผ่านการคัดสรรหน้าตามาประมาณนึง
 หรือบางทีมาแล้วเจอเพื่อน เจอคนดัง
-ดนตรีสดที่ดีงามทุกวัน
-มีที่จอด(ห้ามลืมแสตมป์นะ มันแพงมาก)
-โลเคชั่นดีงาม
เราก็เลยลงความเห็นกันว่า บ้านเพื่อน เอกมัยเป็นร้านที่ดีที่สุดในเอกมัยจ้า!!! จบจ้า


One Fine Day with Yae หนึ่งวันดี๊ดีของแย้ ep1 ล่องเรือเที่ยว Palma De Mallorca

เห็นเพื่อนเพื่อนฮิตทำ VLOG กัน โดย VLOG แรกนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากน้องอาชิ
นางบอกให้แย้ทำสิๆ ทั้งๆที่แย้ไม่ค่อยมีเวลา แต่ในเมื่อน้องชวนแล้ว อาเจ้ก็จัดไป!! 
แล้วถ้าฟิตแบคดีก็จะกลับมาทำให้ชมกันอีก ซึ่ง VLOG วันนี้แย้อยู่ที่เมืองปัลมา เดอ มายอร์กา ของประเทศสเปนพอดี ก็เลยถือโอกาสพาเพื่อนเพื่อนไปเที่ยวด้วยซะเลย


รีวิวคสอ ชิ้นละไม่เกิน39฿ จ่ายจริง เจ็บจริง555


ของถูกและดีที่แท้ทรู แต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางราคา 39 บาท!!!!! feat.triptapp 
มาลองใช้คสอ แก้เขิน ในวันที่เงินเหลือน้อย เบี้ยน้อยหอยน้อยก็สวยได้นะเหวยยยย


รีวิว Maison De La Truffe บางอย่างเสียดายตังค์ บางอย่างต้องกินสักครั้งในชีวิต

ขอรีวิวอาหารแพงบ้างเว่ยเฮ้ยย!!! แต่ลด 50% ค่อยยังชั่ว คือ.. เมื่อวันเกิดทีผ่านมา 
แย้พาเพื่อนๆไปกินข้าวฉลองกันที่ร้าน Maison De La Truffe 
ที่มาใหม่แทน Harvey ในทองหล่อ ซอย 9 ซึ่งใครเป็นแฟนอาหารฝรั่งเศสก็อย่าพลาด
ไม่ใช่แค่อย่าพลาดไปกิน แต่อย่าสั่งพลาดด้วย555 
ปล. รีวิวนี้ based on ความชอบและความรู้สึกส่วนตัวนาจา!!!  
ใครเห็นต่างคอมเม้นท์ได้ ด่าได้ แต่อย่าด่าแรง555+ ถ้าพร้อมแล้ว ไปค่ะ!!



นี่คือสมาชิกที่ไปรับประทานวันนั้น และเพื่อนผู้ชายอีกสองคน รวม 5 กระเพาะ
ใครที่ไม่รู้จักร้าน Harvey แล้วอยากมาที่ร้านนี้ก็เลี้ยวเข้าทองหล่อซอย9
ตรงมาประมาณไม่ถึง 1 กิโลเมตรจะเจอร้าน Limoncello ทางขวา ซึ่ง Maison de la Truffe
ร้านนี้จะอยู่ถัดจากร้าน Limoncello เลย
ร้านค่อนข้างหรูหราพอสมควร ต้องแต่งตัวให้ถูกกาลเทศะนิดนึง


แอบถ่ายเมนู และราคามาให้ดูบางส่วน ไม่มีเมนูภาษาไทยนาจา แต่ถาม พนง.เสิร์ฟได้
ตรงราคาจะมี 2 แบบ คือ 
แบบที่มีทรัฟเฟิล กับ ไม่มีทรัฟเฟิล ซึ่งราคาต่างกันมาก
ดังนั้น เราสั่งแบบมีทรัฟเฟิลเฉพาะบางเมนูก็พอนาจา เดี๋ยวจนนาจา 
ซึ่งแย้จองผ่าน eatigo ลด 50%ตอน 21:30 ก็พอไหวกับราคาอยู่..


ความพีคมันอยู่ตรงที่ ทุกโต๊ะจะมีน้ำมันมะกอกที่มีส่วนผสมมีกลิ่นของน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิลวางไว้บนโต๊ะแบบที่เรียกว่าเติมได้ไม่อั้น 
ซึ่งแย้ก็ลองเทสต์กับขนมปังที่เสิร์ฟเป็น Appetizer ปรากฏว่า ฟิน!!! เบอร์ร้อยยยยยย 
จริงๆไปที่ร้านดื่มแค่ไวน์ รอขนมปังกับ เจ้าน้ำมันขวดนี้ก็คุ้มแล้ว เพราะจริงๆมันแพงมาก
แต่นี่มีให้ไม่อั้น!! ยอมมมมม


มาที่เมนูแรกกัน Truffle Fried 600฿ รูปร่างหน้าตาน่ารับประทานมาก แต่ราคาสูงมากกกกกกด้วย 
เค้ามีซอสมาให้จิ้มเป็นซอสอะไรก็ไม่รู้แต่ไม่ได้รู้สึกว่าอร่อยขึ้นจากซอสนี้
เพราะตัวเฟรนช์ฟรายส์อร่อยอยู่แล้ว มันมีกลิ่นไอของทรัฟเฟิลอยู่แล้ว
และด้วยความที่แย้เป็นมนุษย์ของทอดก็เลยต้องสั่งมา   แต่แอบไม่เป็นดังหวัง 
เพราะเคยไปเจอที่อร่อยกว่านี้ก็คือที่ร้าน Ainu Hokkaido Izakaya  ตรงข้ามท็อปมาเก็ตเพลส
ร้านนั้นเทพจริง ไม่เคยสั่งน้อยกว่า 1 จาน5555+
แต่ถ้าใครไม่เคยไปโดนที่ Ainu มาก่อน ก็น่าจะ happy กับจานนี้ดี /// เต็ม 10 ให้ 6


ภาพบน Truffle coated chicken balls สารภาพตามตรงว่าลืมถ่ายรูป มูลค่า 250฿ เป็นจานที่ถูกที่สุด
แล้วก็ตั้งความหวังไว้เพราะมันคือไก่ทอดที่ชุบด้วยน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล มาพร้อมกับน้ำจิ้มหวานหวาน
ก็เลยลองกินแบบเปล่าๆ กับกินแบบจิ้มซอส ปรากฏว่าไม่ประทับใจทั้งคู่
เพราะในตัวไก่ทอดมันมีเครื่องเทศอยู่แล้ว และไก่ที่หมักเครื่องเทศมาก็ไม่ได้ถูกปากแย้
แล้วกลิ่นเครื่องเทศนี้ก็ไปกลบกลิ่นน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล
ส่วนซอสก็ทำให้ไก่ทอดชิ้นนี้กลายเป็นไก่ทอดธรรมดาที่ไม่ได้อร่อยเหนือกว่าห้าดาวสักเท่าไหร่
/ เต็ม 10 ให้ 2 

----

ภาพล่าง Truffled Brie Cheese มูลค่า 850฿ สารภาพตามตรงอีกแล้วว่าถ่ายรูปไม่ทันจริงๆเพราะตอนแรกไม่คิดว่าจะรีวิวเท่าไหร่เนื่องจากว่าอาหารมันค่อนข้างแพงแต่คิดไปคิดมาในไหนก็จ่ายไปแล้ว
รีวิวเลยแล้วกัน 
จานนี้ก็ใหญ่กว่าที่คิดเอาไว้เยอะเพราะให้ Brie Cheese มาเยอะมากซึ่งตรงกลาง Brie Cheese น่าจะเป็นซอสครีมทรัฟเฟิล แต่แย้ว่ารสชาติมันมีแต่เลี่ยนกับเลี่ยน
เพราะสำหรับแย้แล้วแย้จะทาน Brie Cheese
คู่กับพวกผลไม้แห้งหรืออะไรหวานๆ จะไม่ค่อยถนัดทานกับ ร็อคเก็ตสลัดเท่าไหร่ 
สรุปจานนี้ เป็นการผสมผสานวัตถุดิบต่างๆที่งงงวย ไม่ถูกปากแย้ กินเหลือด้วย แงแง เสียดายยย
/ เต็ม 10 ให้ 2


ภาพบน Risotto Truffle 950฿ จานนี้ต้องสั่ง!!! Must Eat Item ไม่ต้องบรรยายเยอะ
เวลาสั่ง Risotto Truffle ที่อื่นก็อร่อยสัสรัสเซียอยู่แล้ว แต่ที่นี่ คือบ้านแห่งทรัฟเฟิล (Maison de la Truffe) ความอร่อยมันทวีความรุนแรงมากจริงๆ หอม อร่อยเพอร์เฟ็ก เลี่ยนแค่ไหนก็ซัดเรียบ เลียจาน
/ เต็ม 10 ให้ 10

-----

ภาพล่าง Angel Hair with Mud Crab 1,700฿ แพงมาก แต่เพื่อนสั่ง และแย้ไม่กินปูเลยไม่ได้ชิม
ได้แต่ชิมเส้น ซึ่งธรรมดามากๆ 555555+ รสชาติออกจีนๆด้วยซ้ำ เป็นจานที่กินเหลือเยอะที่สุด
ยุงแทบไข่ นิ่งสนิท จนต้องห่อกลับบ้าน กระทั่งถามเพื่อนที่ชอบกินปู
เค้าก็บอกว่า อันนี้เบเบ ทั่วไปๆ จออบ
/ เต็ม 10 ให้ 3


มาจานนี้พีคสุด มาหลังสุด Entrecote de boeuf แล้วก็อะไรต่อไม่รู้ เอาง่ายๆคือ
เสต็กเนื้อวากิว!!!!! 2,800฿ แพงมาก!!!!!!!!!
แต่กลั้นใจสั่งมาเพราะอยากกิน สั่งแบบ Medium Rare โอ้โหหหหห!!!!! อร่อยละลายหอมกรุ่นละมุนลิ้น กินแล้วลอยกันทุกคน!! แต่บอกเลย สั่งมากินคนเดียวไม่ไหวเพราะมันแทรกแน่นชิ้น
ต้องเอามาแชร์กัน หรือมากินร่วมกับ Risotto Truffle 
สรุปคือจานนี้เพอร์เฟ็กมากจริงๆ ติดอยู่อย่างเดียว.. ราคา!!55555 
แต่ก็ยอมจ่าย ตามใจปากตัวเองบ้าง นานๆที / เต็ม 10 ให้ 9


ภาพบน ร้านให้ฟรีจ้า วันเกิด!! ตัวชอคลาวานี่ไม่เท่าไหร่ แต่ที่พีคคือ.. ไอศครีมทรัฟเฟิล!!!
พีคมากก ซัดกันนัวลิ้น5555+ / เต็ม 10 ให้ 9

---

ภาพล่าง Scallop Carpaccio with Truffle 1,400฿ อันนี้วิจารณ์ไม่ได้
ให้คะแนนไม่ได้เพราะไม่กินหอยดิบจ้า แต่เพื่อนก็ทานหมดนะ..
เค้าให้เยอะเต็มจานเลย แต่ว่าชิ้นมันก็บางมาก เลยรู้สึกราคาสูงโดยใช่เหตุ แห่ๆ


อ้ะ นี่ขนาดลด 50% นะเนี่ย55555555+++++ จะเป็นลมมม เอาเป็นว่า
ใครสายเดียวกับแย้และมีงบจำกัด แต่ห้ามปากห้ามลิ้นไม่ได้.. 
ให้สั่ง Risotto with Truffle + เนื้อวากิว ก็พอนาจาา
ไปตอน 21:30 ด้วย eatigo ลด 50% 
ปล. ค่าเปิดไวน์ 600฿ แงแง
555555+++


ของดีที่โดนมองข้าม มาสวยด้วยข้าวกันเถอะ !!

สวัสดีค่ามิตรรักแฟนบล็อกทุกคน วันนี้แย้ไม่ได้เอาผลิตภัณฑ์ใดๆมารีวิวให้ดูกัน แต่จะเป็นการแนะนำให้รู้จักกับสิ่งเก่าเดิมๆ ที่หลายคนเบื๊อ เบื่อ แต่ก็ขาดไม่ได้ ข้าวนั่นเอง

คือตัวแย้เนี่ย ก็รีวิวผลิตภัณฑ์สกินแคร์หรือเครื่องสำอางมาเยอะมากนะคะ ซึ่งตามยุคสมัยผ่านๆ เปลี่ยนๆ มาเนี่ย ส่วนผสมของสิ่งเสริมสวยเหล่านี้เนี่ย ก็นับวันจะมีส่วนผสมที่แปลก นำเข้ามาจากแดนไกล ต้องไปตามหาตามหลืบเขาเหลียงซานอะไรโน่น บลาๆ

แต่บางทีเนี่ย คนเราก็ลืมคิดไปว่า เรามีของดีจากบ้านเราเองอย่างข้าว ข้าวบ้านเราเนี่ยแหละ จริงๆ แล้ว ข้าวเป็น Super Food ที่มีคุณค่าโพดๆ นอกจากจะกินอร่อยแล้ว เอามาสกัดบำรุงเพื่อความสวยงามยังเลิศไปอีก




ซึ่งหลายๆ คนจะไม่ทราบว่า บางๆแบรนด์เคาท์เตอร์ของเมืองนอกเมืองนา ที่ขายขวดละหลายพันเนี่ย เค้าใช้ข้าวเป็นสารตั้งต้นในการผลิตเลยนะยู เพราะในข้าวมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เป็นง่ะ?! ชิคมะ มีสารต้านอนุมูลอิสระไปอีก ซึ่งนางจะช่วยยับยั้งการเสื่อมสลายของคอลลาเจนบนใบหน้า ลดต้นเหตุของริ้วรอยตีนไก่ตีนกาสารพัด ไม่ใช่แค่ข้าวญี่ปุ่นหรอกนะที่มีสารตัวนี้ ข้าวไทยคนดีของเราเค้าก็มีนะ

ข้าวบางสายพันธุ์ อย่างข้าวหอมนิล เม็ดสีม่วงๆดำๆเนี่ย ยังมีคุณสมบัติเปลี่ยนสีผมหงอกเป็นพญางูขาวให้เป็นสีน้ำตาลเข้มได้ไปอีกกก



นอกจากเรื่องของการบำรุงผิวบำรุงผมแล้ว ข้าวยังสามารถสกัดไปทำเครื่องสำอางได้อีกนะ ซึ่งหลายๆคนอาจจะเคยเห็น แป้งที่สารสกัดจากข้าว แต่ที่พีคคือ เค้านำไปทำคุชชั่นแล้วเธอออ ซึ่งปราศจากสาร talcum หรือสารที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ ทั้งดีและอ่อนโยนไปอีก


น้ำมันรำข้าว ไขรำข้าว หรือแป้งข้าวเจ้า ยังถูกนำมาเป็นส่วนผสมทำลิปสติกที่สามารถบำรุงและป้องกันแสงแดดด้วย

รอบด้าน 360 องศาสุด ที่แย้เกริ่นมายาวเหยียดขนาดนี้ ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ แย้แค่อยากแนะนำผู้ประกอบการหลายๆ คนที่คิดอยากทำเครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิว อย่ามัวตามหาส่วนผสมตัวเทพด้วยการปีนป่ายหาตามหน้าผาจอมยุทธหรือร่องหุบเขามรณะเลย ในเมื่อเรามีของดี ที่หาได้ง่ายมากในบ้านเรา แต่คุณสมบัติอลังการงานเทพแบบแบรนด์เคาท์เตอร์ของเมืองนอก ข้าวบ้านเรานี่แหละ เลิชชชช

ใครสนใจอยากไปดูนวัตกรรมใหม่ของข้าวไทย หรือใครกำลังคิดอยากทำเครื่องสำอาง สกินแคร์หรืออื่นๆ แล้วกำลังหาส่วนผสมดีๆ แย้แนะนำให้ไปที่ลานอีเดน 3 ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์ เขามีนิทรรศการ “Rice Plus … ข้าวไทยก้าวใหม่ด้วยนวัตกรรม จัดขึ้นวันที่ 28-30 พฤษภาคม 2560 นะค้าาาา


รักนะถึงมาบอกกัน จุ๊บ

 
หญิงแย้ © 2014 | Designed by Janenipa.com